ll EP23 ll
ฉันกำลังมองสีหน้าของอีกคนที่อยู่ใกล้เพียงไม่กี่เซนอย่างประเมิน และก็ได้พบว่าหัวฉันตอนนี้มันทึบไปหมด สีหน้าของอีกคนแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากคุยแล้ว แต่หน้าฉันกลับร้อนระอุอย่างที่ไม่ควรจะเป็นเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะทำในไม่กี่อึดใจ
ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วจะถอยก็เปล่าประโยชน์ อีกอย่างเราก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล ไม่จำเป็นต้องอาย.. มันไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย.. ท่องไว้.. ไม่ต้องอาย...
"จะทำอะไร?" ไปป์เอ่ยถามในตอนที่ฉันกำลังเคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ดวงตาอีกฝ่ายฉายแววตกใจออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบฉันไป
"ง้อ" ฉันทำใจกล้าเอ่ยตอบไปอย่างหน้าด้านๆ แต่สองมือที่กำลังกุมใบหน้านั้นเอาไว้กลับสั่นขึ้นมาเมื่อถูกจดจ้อง และในตอนนั้นเองฉันก็ตัดสินใจกดจูบลงบนริมฝีปากตรงหน้าทันที..
แทบไม่มีปฏิกิริยาตอบรับจากอีกคนเหมือนอย่างที่คิด.. ฉันขยับกลีบปากที่ทำเพียงแตะกันอยู่ก่อนหน้านี้อย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป จำได้ว่าเคยเริ่มทำแบบนี้กับไปป์ก่อนครั้งนึง เป็นฝ่ายเริ่มก่อนได้ไม่นานเขาก็ไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้และตอบรับสัมผัสในที่สุด แต่ตอนนี้ไม่ว่าฉันจะรุกล้ำเข้าไปนานเท่าไรจนจำไม่ได้ ริมฝีปากนั้นก็ยังนิ่งเฉยเพียงแต่ไม่ได้เกร็งไว้และปล่อยให้ฉันเป็นฝ่ายทำอย่างตามใจ
ความคิดที่จะล้มเลิกแน่นอนว่ามันอยู่ในหัวฉันตลอด แต่แค่คิดว่าทำมาถึงขนาดนี้แล้วจะกลับมือเปล่าคงไม่ได้..
"อ่ะ.." น่าแปลกที่ฉันรู้สึกใจชื้นขึ้นมาเมื่ออีกฝ่ายเริ่มส่งเสียงทุ้มออกมาให้ได้ยินบ้าง ในตอนที่ฉันเคลื่อนตัวลงไปขบเอาเนื้อตรงลำคออีกฝ่ายเข้ามาในอุ้งปาก เนื้อนิ่มที่ครูดกับฟันเหมือนกับที่ไปป์เคยทำกับฉัน.. ก้อนเนื้อในอกยิ่งเต้นถี่ขึ้นกว่าเดิมเมื่ออีกคนเริ่มมีปฏิกิริยาตอบรับ ฉันทำทั้งหมดอย่างเก้ๆ กังๆ ทุกอย่างล้วนจำมาจากที่ไปป์เคยทำให้ฉันทั้งนั้น ยกเว้นสิ่งที่ฉันจะทำต่อไปนี้
ไปป์ไม่เคยสอนฉัน..
ฉันไม่เคยคิดทำแบบนี้..
แต่ซายแนะนำมา และรับรองว่าได้ผล..
ฉันเคลื่อนร่างต่ำลงไปอีกอย่างเริ่มได้ใจ จนตัวไหลลงมากองอยู่ตรงหว่างขาของอีกคนที่ตั้งชัน สองมือที่กำลังลากผ่านแผ่นอกลงไปจนถึงหน้าท้องแน่นมันสั่นระริกอย่างห้ามไม่ได้
"ห หวาน.. " เสียงทุ้มรีบเอ่ยเรียกเมื่อเห็นมือฉันกำลังลูบไล้ไปทั่วหยุดอยู่ตรงใจกลางร่าง ฉันหยุดสัมผัสแก่นกายผ่านบ๊อกเซอร์ที่ร่างหนาสวมใส่อยู่โดยไร้อันเดอร์แวร์อย่างแผ่วเบาพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างเรียกกำลัง
ก่อนที่เจ้าของร่างจะยันตัวลุกขึ้นมาจับฉันไว้ ฉันก็กลั้นใจดึงบ๊อกเซอร์ตัวนั้นออกทันทีแล้วพยายามจับแกนกายตรงหน้าอย่างหลับหูหลับตา ไปป์ที่ยันร่างลุกขึ้นมานั่งแล้วค้างเติ่งในท่าที่จับต้นแขนฉันไว้เหมือนจะห้ามแต่สุดท้ายก็ทำเพียงวางมือนั้นไว้บนไหล่เฉยๆ เมื่อเห็นฉันกำแกนกายไว้ในอุ้งมือก่อนจะเริ่มขยับมัน
"อะ.. อาา" เสียงครางของไปป์หลุดมาจากปากอีกครั้ง ฉันใช้นิ้วหัวแม่มือสัมผัสกับส่วนปลายของเขาอย่างแผ่วเบา อีกคนเริ่มเกร็งเครียดอย่างเห็นได้ชัด กายแกร่งเริ่มแข็งตึงตอบรับมือฉันขึ้นมาเรื่อยๆ
ฉันเงยหน้าสบตากับร่างหนาที่กำลังมองมาเหมือนกำลังสะกดอารมณ์ มือจับกายแกร่งให้ตั้งขึ้นก่อนจะหลับตาสัมผัสลิ้นลงไปแตะกับส่วนปลาย ก่อนหน้านี้ไม่กี่วิฉันเห็นไปป์กำลังจะเลื่อนมือมาจับหน้าฉัน แต่ตอนนี้กลับปล่อยค้างไว้กลางอากาศและเงยหน้าขึ้นสูดปากเสียงดังเมื่อฉันไล้ลิ้นลากลงไปตามลำแก่นกายเรื่อยๆ และงับมันเข้ามาไว้อุ้งปากในที่สุด
"อ่ะ! อ่าา!.. ห หวาน.."
ฝ่ามืออีกข้างที่ไปป์วางไว้บนไหล่ฉันอยู่แล้วก่อนหน้านี้ออกแรงกดให้ฉันขยับปากลงไปอีก ฉันยอมทำตามอย่างว่าง่ายรู้สึกได้ถึงความคับแน่นในปากที่มากขึ้น หน้าไปป์ที่ก้มลงมามองฉันนั้นแดงก่ำและฉันมั่นใจว่าตัวเองตอนนี้ก็คงไม่ต่าง
ไปป์คอยออกแรงให้ฉันขยับขึ้นลงสักพักก็ปล่อยให้ฉันเป็นฝ่ายควบคุมมันเอง ฝ่ามือหนาสอดนิ้วเข้ามาในกลุ่มผมที่ฉันปล่อยยาวก่อนจะรวบมันไว้ในกำมือไม่ให้ตกลงมาปรกบังใบหน้า
เสียงลมหายใจดังแว่วเข้าหูฉันมาเรื่อย ยิ่งมือที่ฉันกำส่วนโคนไว้ออกแรงขยับขึ้นลงเร็วเท่าไหร่ เสียงนั้นก็ยิ่งดังมากขึ้น เสียงลามกแบบนั้นของไปปทำให้ฉันใจเต้นระรัวอย่างน่าไม่อาย
"อะ อื้ม" ไม่รู้ว่าฉันทำแบบนั้นให้ไปป์นานเท่าไหร่ เสียงครางที่ได้ยินกลับรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นคำชม จนในที่สุดร่างก็ถูกกระชากให้ขึ้นมารับจูบที่แสนเร่าร้อนกว่าครั้งไหน ฉันนิ่งค้างในตอนแรกเพราะตกใจแต่ก็ตามเกมส์ในวินาทีถัดมา ตัวฉันถูกยกให้ไปนั่งบนตักแกร่งอย่างง่ายดาย ก่อนจะรู้สึกว่าร่างที่ฉันนั่งทับอยู่กำลังเขยิบไปพิงชิดกับผนังหัวเตียง
ฉันถูกรุกล้ำเข้ามาในชุดนอนที่ใส่อยู่แบบเสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้น กระดุมถูกปลดโดยฝ่ามือหนาอย่างใจร้อน จนสุดท้ายก็ถูกกระชากออกแทนเมื่อมันไม่ได้เร็วดั่งใจคิด
"ใส่ทำไม" ไปป์เอ่ยถามเมื่อเลื่อนมือสัมผัสเข้ามาเจอบราแบบไร้โครงที่ฉันใส่อยู่
"ก ก็ใส่อยู่.. ทุกวัน! อ๊ะ.." ฉันเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงที่ขาดหายเมื่ออีกคนเอื้อมมือไปปลดตะขอบราด้านหลังและขบเม้มกับร่างฉันไปด้วย ฝ่ามือหนาดึงบราออกอย่างรวดเร็วจนฉันรู้สึกโหวง กายเราแนบชิดกันมากไปป์ยังไม่ผละออกไปและยังคงมุ่นอยู่ตรงต้นคอฉันจนฉันต้องส่งเสียงออกมา
"ทีหลังไม่ต้องใส่" เสียงทุ้มเปล่งออกมาพร้อมลมหายใจร้อนระอุที่เลื่อนลงมารดผิวเนินอกของฉัน
"อ๊ะ! เจ็บ.." ฉันร้องออกมาเมื่อริมฝีปากร้ายงับลงมาตรงส่วนปลายของยอดอก แผ่นหลังถูกลูบไล้อย่างแผ่วเบาก่อนจะออกแรงดันให้ฉันยืดตัวขึ้นรับสัมผัสตรงหน้าเหมือนเป็นการโดนบังคับกลายๆ
ร่างฉันชาไปเกือบทั้งร่างเพราะถูกขมเม้มลงมาอย่างแรงหลายที่ เนื้อนิ่มตรงหน้าอกถูกอีกคนฟัดจนแทบช้ำ ผิวที่ถูกครูดกับซี่ฟันคมทำให้ฉันส่งเสียงร้องออกมาได้เรื่อยๆ ก่อนตัวจะถูกยกให้สูงขึ้นในอีกระดับโดยต้นขาที่ฉันนั่งทับกำลังชันขึ้น
เนินอกที่อยู่ข้างหน้าอีกร่างพอดีจนไม่ต้องก้มลงมาฉกชิมเหมือนเก่า เสียงสูดดมดังขึ้นมาเต็มปอดทำให้ก้อนเนื้อในอกฉันเต้นรัวจนแทบระเบิด แต่กลับสะดุ้งขึ้นมาเมื่อถูกสัมผัสกับส่วนอ่อนไหวของร่างกายอย่างละลาบละล้วง
ใบหน้าอีกคนกำลังฝังลงมามอบสัมผัสให้อย่างหื่นกระหายพร้อมกับฝ่ามือหนาที่ออกแรงดันกั้นตัวฉันไว้ไม่ให้ถอยหนี การกระทำแบบนั้นทำให้ฉันแทบขยับตัวไม่ได้ส่วนที่ยังพอเคลื่อนไหวได้คือใบหน้าที่ตอนนี้เงยขึ้นอย่างต้องการอากาศหายใจ และมือที่ยังเหลือแรงอันน้อยนิดดันกับแผงอกกว้าง ขาที่ถูกบังคับให้แยกออกจากกันสั่นระริกเมื่อเนื้อในถูกสัมผัส
"อื้อไปป์.. อ๊ะ!" นิ้วเรียวของไปป์กำลังคลึงสำรวจกับส่วนล่างของฉันอย่างเอาแต่ใจ ฉันเริ่มขยับสะโพกถอยหนีเพราะสัมผัสที่ถูกมอบมาให้มันเริ่มมากเกินไป ก่อนจะร้องออกมาเสียงดังเมื่อถูกนิ้วร้ายดันเข้าในช่องทางอย่างอุกอาจ
ฉันนิ่งค้างเพราะความเจ็บแปลบ ทั้งร่างเกร็งเครียดอย่างน่ากังวล ไปป์ไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้กับฉันบ่อยจนต้องชิน นิ้วร้ายที่กำลังควานสำรวจมันทำให้รู้สึกต่างออกไปจากปกติ
"เจ็บหรอ" เสียงทุ้มเอ่ยถามฉัน
"อื้อ.." ฉันผงกหัวตอบพร้อมกับเสียงครางที่กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เมื่ออีกคนขยับสิ่งแปลกปลอมที่แทรกเข้ามาในกายฉันอย่างไม่ให้สัญญาณ
เสียงที่ดังขึ้นเพราะความเปียกชื้นทำให้ฉันก้มหน้าลงกับไหล่แกร่งอย่างนึกอาย มือเริ่มก่ายกอดร่างหนาเอาไว้อย่างต้องการที่ระบายและพึ่งพิง เมื่อถูกออกแรงให้ถี่มากขึ้นฉันเกร็งอย่างอธิบายไม่ได้ความรู้สึกบอกให้ฉันรู้ว่ามันใกล้จะจบแต่ทุกอย่างกลับหยุดอยู่แค่นั้นเมื่ออีกคนถอนนิ้วออก แต่ฉันยังคงทิ้งตัวไว้กับร่างหนาเหมือนเดิมอย่างอ่อนแรง
"ตาหวานแล้ว" ไปป์โยนหน้าที่ให้ฉันหน้าตาเฉย
"อะ อะไร?" ฉันเลื่อนหน้ามาสบตาอย่างไม่เข้าใจ เนื้อตัวยังคงสั่นจากสัมผัสร้อนแรงที่ยังไปไม่สุด
"ทำให้ไปป์"
"บ แบบเดิมหรอ?"
"ไม่ใช่.. นั่งลงมา" อีกคนสบตาตอบอย่างต้องการ
"ไปป์..." ฉันร้องเรียกชื่อไปป์เสียงอ่อน แทบจะร้องไห้เพราะอายเมื่อถูกกดดัน
"งั้นไม่ต้องก็ได้" อีกคนพูดมาแค่นั้นก่อนจะทำท่าผละร่างฉันออก
"รู้แล้ว! จะทำก็ได้" ฉันรีบก้มหน้างุดบอกคนตรงหน้า "แต่ต้องหายงอนหวานนะ"
"อืม"
เมื่อเห็นไปป์พยักหน้ารับ ฉันก็ใช้มือยันตัวขึ้นกับไหล่แกร่งอย่างเก้ๆ กังๆ แววตาที่จ้องการกระทำตรงหน้าตัวเองอย่างนิ่งๆ แต่กลับร้อนแรงทำให้ฉันแทบขยับตัวไม่ออก จนต้องเอื้อมมือไปปิดตาอีกคนไว้ "อย่าพึ่งมอง"
ฉันจัดการตัวเองอย่างยากลำบาก มือที่สั่นระริกเอื้อมจับแกนกายมาจ่อไว้กับช่องทางตัวเองก่อนจะกดตัวลงไปอย่างเกร็งๆ
"ฮึก.." มันยากที่จะต้องทำเองทั้งหมด ความเจ็บที่ฉันยัดเยียดให้ตัวเองอย่างรู้สึกตัวทำให้ไม่กล้าจะขยับร่างอีก ฉันเกาะไปป์ไว้แน่นอย่างหวาดๆ จนสุดท้ายอีกคนก็ยอมขยับกายเข้าหาและออกแรงดันเข้าจนสุดทาง
"เจ็บมากไหม" เสียงทุ้มกระซิบถาม ฉันไม่รู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้จนเมื่อริมฝีปากตรงหน้าเข้ามาจูบซับน้ำตาให้อย่างปลอบใจ กลีบปากเราแนบชิดเข้าหากันอีกครั้ง จนฉันรู้สึกผ่อนคลายขึ้นความเจ็บปวดเริ่มหายไป
ริมฝีปากเรายังไม่ได้ผละออกจากกันแต่อย่างใด เอวฉันถูกบังคับโดยฝ่ามือหนาให้ขยับขึ้นลง เมื่อมาอยู่ในท่านี้ฉันรู้สึกว่ามันล้ำลึกกว่าครั้งไหนๆ ส่วนปลายที่เข้ามากระแทกกับบางอย่างในกายทำให้ฉันผวาจนต้องคว้าอีกร่างกอดไว้แน่น
เอวฉันถูกบังคับโดยมือหนาให้เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาต่อมา ฉันเงยหน้าอ้าปากหายใจเฮือกใหญ่เมื่อริมฝีปากถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ก่อนต้นคอฉันจะถูกขบกัดอีกครั้ง
"ขยับได้ไหม" ริมฝีปากหยักเอ่ยบอกกับฉันอย่างไม่ต้องการคำตอบ ฝ่ามือร้อนที่บังคับเอวฉันเลื่อนขึ้นมากุบความนุ่มนิ่มตรงหน้าไว้ก่อนจะออกแรงบีบมันจนฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บ
"อา.." ฉันตัดสินใจขยับในที่สุดจนได้ยินเสียงทุ้มครางออกมา ฝ่ามือหนาผ่อนแรงที่กอบกุมฉันไว้เมื่อได้ในสิ่งที่ตนพอใจ "ดี แบบนั้น.." ไปป์เอ่ยชมเมื่อฉันเปลี่ยนจังหวะให้เร็วขึ้น
"อ๊ะ! ไปป์!" ฉันร้องออกมาเมื่อถูกเอวหนาสวนกลับขึ้นมาในจังหวะที่ฉันกำลังจะลงพอดีจนร่างกระตุก
"ทำต่อ" เสียงทุ้มเอ่ยเรียกฉันที่หยุดจังหวะไว้ ฉันกลั้นใจทำต่อด้วยหลากหลายความรู้สึก เมื่อกี้มันลึกมากจนฉันเจ็บแต่ในทางกลับกันก็รู้สึกดีไปด้วย
การกระทำของไปป์สร้างความรู้สึกปั่นป่วนให้ฉันมากขึ้นกว่าเดิม การที่เขาตอบรับสัมผัสมาทุกครั้งในท่าแบบนี้มันทำให้เรายิ่งแนบชิดกันมากขึ้น แขนที่ฉันตวัดคล้องคอหนาไว้จำต้องรัดแน่นขึ้นจนซอกคอฉันถูกวางด้วยใบหน้าอีกคน ฉันกอดไปป์แน่นมากอย่างไม่รู้จะลงที่ไหน
"ไปป์! เบา.. อ๊ะ! เบาหน่อย!" ฉันเรียกร้อง เมื่อถูกสวนกลับมาด้วยจังหวะที่รับไม่ไหว แขนแกร่งที่กอดฉันไว้แน่นเช่นกันกำลังออกแรงควบคุมให้ร่างฉันขยับตอบรับความเร่าร้อนนั้นอย่างเอาแต่ใจ
"อ่า..หวาน.." เสียงครางต่ำที่ดังขึ้นพร้อมลมหายใจร้อนของเราที่ผสมปนกันกระทบลงมาบนผิวหนังเหมือนกำลังจะล้างสมองฉันให้ว่างเปล่า
สติฉันแทบกระเจิงเมื่อถูกเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นไปอีก แรงกระแทกที่ถูกใส่เข้ามาอย่างหนักหน่วงและถี่เป็นเวลานานทำให้ฉันเริ่มเกร็งเครียดไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มือที่ก่ายกอดร่างหนาไว้แน่น ยิ่งแน่นขึ้นกว่าเดิมเมื่อความรู้สึกถูกดึงขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่
"มะ.. ไม่ไหว!" เนื้อตัวฉันสั่นไหวตามแรงกระแทกไม่หยุด ฉันก็รู้สึกแตกพร่าอีกครั้ง ข้างในฉันกำลังตอดรัดตัวตนที่กระแทกเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อถึงจุดไคลแม็กซ์ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกอ่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม
ยิ่งสัมผัสโดนส่วนที่เชื่อมต่อกันมากเท่าไหร่ยิ่งเหมือนทำให้ฉันรู้สึกถูกโยนลงมาจากที่สูงซ้ำๆ จนในที่สุดจังหวะถูกเร่งให้เร็วขึ้นอีกครั้ง ร่างฉันโดนกระแทกเข้ามาอย่างหนักหน่วงในช่วงสุดท้ายและถูกกดร่างให้แนบชิดจนสุดทาง ความอุ่นวาบถูกปล่อยเข้ามาในร่างจนรู้สึกหวิว
เสียงครางที่ดังแข่งกันก่อนหน้านี้เหลือเพียงแค่เสียงลมหายใจของเราให้ได้ยินเท่านั้น อ้อมกอดของกันและกันที่เกร็งแน่นถูกคลายออกแต่ก็ยังไม่ได้ปล่อยออกจากกันก่อนร่างฉันจะถูกจัดให้นอนลงในอ้อมอกหนา
"ขอบคุณที่อยู่กับไปป์นะ" เสียงกระซิบที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้ฉันยิ้มออกมาอย่างรู้สึกอุ่นหัวใจ
ฉันขยับหน้าเข้าไปสัมผัสกับริมฝีปากนั้นอีกครั้งก่อนจะกอดร่างอีกคนไว้พร้อมหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า.. "รักนะ"
กลับไปอ่านต่อที่ : https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1615067